การออกแบบระบบอินทราเน็ต
นอกจากระบบการเชื่อมโยงแบบอินเตอร์เน็ตแล้ว ยังมีระบบการเชื่อมโยงอีกแบบหนึ่ง เรียกว่า “ระบบอินทราเน็ต (Intranet)” ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายที่มีลักษณะเช่นเดียวกับระบบอินเตอร์เน็ต (Internet) แต่ต่างกันตรงที่อินทราเน็ตเป็นการเชื่อมโยง เครือข่ายที่จำกัดขอบเขตการใช้งานอยู่ภายในองค์กรเท่านั้น โดยอนุญาตให้ผู้มีสิทธิ์ใช้งาน คือ สมาชิกภายในองค์กรเท่านั้น ด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันในการใช้งาน จึงทำให้การออกแบบเว็บเพจมีรูปแบบที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งในบทนี้จะได้อธิบายหลักการออกแบบระบบอินทราเน็ตและรายละเอียดอื่นที่เกี่ยวข้อง
6.1 ระบบพื้นฐานอินทราเน็ต
ระบบอินทราเน็ต (Intranet System) เป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายที่มีลักษณะเช่นเดียวกับระบบอินเตอร์เน็ต (Internet System) แต่ต่างกันตรงที่ระบบอินทราเน็ตเป็นระบบปิดที่มีการจำกัดขอบเขตกลุ่มผู้ใช้งาน โดยอนุญาตให้ผู้มีสิทธิเข้าใช้งาน คือ สมาชิกภายในองค์กรหรือพนักงานในบริษัทเท่านั้น ในขณะที่อินเตอร์เน็ตเป็นระบบเปิดที่มุ่งเน้นการเชื่อมโยงข้อมูลจากทั่วทุกมุมโลก จึงไม่มีการจำกัดขอบเขตของกลุ่มผู้ใช้แต่อย่างใด
ระบบอินทราเน็ต (Intranet System) เป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายที่มีลักษณะเช่นเดียวกับระบบอินเตอร์เน็ต (Internet System) แต่ต่างกันตรงที่ระบบอินทราเน็ตเป็นระบบปิดที่มีการจำกัดขอบเขตกลุ่มผู้ใช้งาน โดยอนุญาตให้ผู้มีสิทธิเข้าใช้งาน คือ สมาชิกภายในองค์กรหรือพนักงานในบริษัทเท่านั้น ในขณะที่อินเตอร์เน็ตเป็นระบบเปิดที่มุ่งเน้นการเชื่อมโยงข้อมูลจากทั่วทุกมุมโลก จึงไม่มีการจำกัดขอบเขตของกลุ่มผู้ใช้แต่อย่างใด
ตัวอย่างหน้าเว็บ http://www.ddc.moph.go.th ที่สามารถเชื่อมโยงเข้าสู่ระบบอินทราเน็ตขององค์กรได้
ระบบอินทราเน็ตถูกนำมาใช้เพื่อจัดเตรียมข้อมูลและสารสนเทศภายในองค์กร ให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ แทนการจัดเก็บข้อมูลด้วยเอกสาร ซึ่งมีความล่าช้าในการรับส่งหรือปรับปรุงข้อมูล โดยช่วยสมาชิกขององค์กรให้สามารถสืบค้นข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์หลัก ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเครื่องแม่ข่ายให้บริการข้อมูลเช่นเดียวกับระบบอินเตอร์เน็ตได้ และยังช่วยลดปัญหาจากการปรับปรุงข้อมูล รวมทั้งประหยัดทรัพยากรในการจัดเก็บเอกสารอีกด้วย ซึ่งในบางองค์กรอาจสร้างเว็บเพจออกเป็น 2 ไซต์ คือ แยกส่วนสนับสนุนการทำงานระหว่างผู้ใช้ภายใน (Internal User) ซึ่งเป็นพนักงานภายในบริษัท และผู้ใช้ภายนอก (External User) ซึ่งเป็นลูกค้าไว้อย่างชัดเจน ในขณะที่บางองค์กรอาจเชื่อมต่อระบบอินทราเน็ตรวมกับระบบอินเตอร์เน็ตเป็นไซต์เดียวกัน เรียกว่า “ระบบเอ็กซ์ทราเน็ต (Extranet System)” เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานหรือการค้นหาข้อมูลทั้งภายในและภายนอกองค์กรมากขึ้น ดังรูปที่ 6.1 โดยไซต์ประเภทนี้จะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้
External Information
เป็นสารสนเทศที่สามารถเปิดเผยให้กับบุคคลภายนอกได้ เช่น ประวัติทั่วไปขององค์กร ข่าวสารประชาสัมพันธ์ ข้อมูลของผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่องค์กรนำเสนอ
External Information
เป็นสารสนเทศที่สามารถเปิดเผยให้กับบุคคลภายนอกได้ เช่น ประวัติทั่วไปขององค์กร ข่าวสารประชาสัมพันธ์ ข้อมูลของผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่องค์กรนำเสนอ
Internal Information
เป็นสารสนเทศเฉพาะภายในองค์กร ซึ่งต้องการความปลอดภัยของข้อมูล จึงอาจต้องมีการเข้ารหัส (Encryption) ก่อนจึงจะสามารถเข้าสู่หน้าเว็บระบบอินทราเน็ตได้ เช่น ชื่อผู้ใช้ (Public Key) และรหัสผ่าน (Private Key) เป็นต้น
เป็นสารสนเทศเฉพาะภายในองค์กร ซึ่งต้องการความปลอดภัยของข้อมูล จึงอาจต้องมีการเข้ารหัส (Encryption) ก่อนจึงจะสามารถเข้าสู่หน้าเว็บระบบอินทราเน็ตได้ เช่น ชื่อผู้ใช้ (Public Key) และรหัสผ่าน (Private Key) เป็นต้น
หลักการออกแบบหน้าเว็บเพื่อทำงานบนระบบอินทราเน็ตและระบบอินเตอร์เน็ต จะมีความแตกต่างกันทั้งกลุ่มผู้ใช้ ลักษณะการใช้งาน และความสามารถในการกำหนดค่าเพื่อแสดงผล ดังตารางที่ 6.1
ตารางที่ 6.1 เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างการออกแบบเว็บในระบบอินเตอร์เน็ตและระบบอินทราเน็ต
รายละเอียด | อินเตอร์เน็ต (Internet) | อินทราเน็ต (Intranet) |
1. กลุ่มผู้ใช้ | ลูกค้า (Customer) และผู้ใช้งานทั่วไปที่คาดหวังว่าจะเป็นลูกค้าในอนาคต (New Customer) | พนักงานหรือผู้บริหารในบริษัท (Employee) |
2. ลักษณะการใช้งาน | ค้นหาข้อมูลสินค้าหรือรายละเอียดอื่นของบริษัทที่เกี่ยวข้องและมีผลต่อการใช้บริการ หรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของลูกค้า | สนับสนุนการทำงานของบริษัท โดยเป็นการค้นหา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานประจำของพนักงาน |
3. รูปแบบภาษาและข้อมูลบนหน้าเว็บ | เป็นข้อมูลทั่วไปที่สามารถเปิดเผยได้ เช่น ประวัติองค์กร สินค้า หรือข่าวสารประชาสัมพันธ์ เป็นต้น โดยใช้รูปแบบภาษาที่ผู้ชมสามารถเข้าใจได้ง่าย | เป็นข้อมูลเฉพาะใช้ภายในองค์กร เช่น ข้อมูลของพนักงานแต่ละบุคคล รายการสั่งซื้อ หรือรายชื่อลูกค้า เป็นต้น โดยใช้คำศัพท์หรือคำย่อที่รู้จักกันเฉพาะในองค์กร เช่น รหัส PO, EDI, หรอื JOB เป็นต้น |
4. การควบคุมสภาพแวดล้อมในการแสดงผล | ไม่สามารถกำหนดให้เป็นรูปแบบเดียวกันได้ทั้งหมด เนื่องจากลูกค้าจะเป็นผู้กำหนดรูปแบบการแสดงผลของคอมพิวเตอร์ เช่น ชนิดของเว็บบราวเซอร์, อุปกรณ์รับ-ส่งข้อมูล และความเร็วที่ใช้ เป็นต้น | สามารถกำหนดให้เป็นมาตรฐานเดียวกันได้ เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เฉพาะในองค์กร ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information System Department) ที่จะเป็นผู้คัดสรรและสร้างมาตรฐานเพื่อใช้งาน |
การออกแบบหน้าเว็บที่ใช้ในระบบอินทราเน็ต จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยทั้ง 4 ประการ ดังตารางที่ 6.1 ด้วย โดยปัจจัยด้านผู้ใช้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นตัวกำหนดลักษณะการใช้งาน ข้อมูลที่ควรมีบนหน้าเว็บ และรายละเอียดอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในเนื้อหาต่อไปของบทนี้จะได้อธิบายหลักการออกแบบระบบอินทราเน็ตดังกล่าว